งา..ตัวช่วยบำรุงให้ตับและไตสุขภาพดี

งาเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย เรานำงามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งแบบทางตรง และแบบแปรรูป เมล็ดงาประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 20-21 โปรตีนร้อยละ 17-25 ไขมันร้อยละ 35-57  ผู้ที่ควรบริโภคงาได้แก้ เด็กในวัยเจริญเติบโตและหญิงวัยหมดประจำเดือน เพราะในงามีธาตุเหล็ก ไอโอดีน แคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งจำเป็นต่อการเสริมสร้างกระดูก

งาเป็นพืชที่สามารถนำมาแปรรูปได้หลายอย่าง เช่น เป็นอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคน อาหารสัตว์ เครื่องสำอาง และสามารถนำมาทำเป็นยาใช้สำหรับคนและสัตว์ได้

น้ำมันงามีกรดไขมันอิ่มตัวที่เรียกว่า กรดโอเลอิก (oleic) และกรดไลโนเลอิก (linoleic) เป็นกรดไขมันที่จำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ช่วยลดระดับพลาสมาคอเลสเตอรอล กรดโอเลอิกมีโอเมกา 6 ป้องกันคอเลสเตอรอลเกาะตามเส้นเลือด ปรับระดับไขมัน ควบคุมความดันโลหิตและช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยบำรุงผิวให้อ่อนนุ่ม

ในงาอุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามินบีทุกชนิด ยกเว้นวิตามินบี12 ที่ช่วยบำรุงสมอง บำรุงประสาท ป้องกันโรคเหน็บชา นอกจากนี้ยังมีเซซามิน (sesamin) และ เซซาโมลิน (sesamolin) ในเซซามินมีประโยชน์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต ลดการออกซิเดชั่นในไขมัน ช่วยให้ตับและไตสุขภาพดี และช่วยลดปฎิกิริยาเคมีที่ทำให้เกิดมะเร็ง

ภาพโดย Enotovyj จาก Pixabay

Advertisement - ป้ายโฆษณา

SHARE