ประโยชน์ในแคร์รอต
วิตามินที่โดดเด่นที่สุดในแคร์รอตคือ วิตามินเอในรูปแบบของเบต้าแคโรทีน ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเกิดมะเร็ง ในงานวิจัยพบว่าเบต้าแคโรทีนในแคร์รอตสามารถลดการเกิดมะเร็งปอดได้ แม้กระทั่งผู้ที่สูบบุหรี่มามากแล้วก็ตาม นอกจากนี้ในแคร์รอตยังมีวิตามินอีกมากมายเช่น วิตามินบี วิตามินซี เหล็ก ฟอสฟอรัส
วิธีรับประทานแคร์รอตให้ได้ประโยชน์
การรับประทานแคร์รอตควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากรับประทานมากเกินไปจะทำให้เกิดภาวะแคโรทีนีเมีย (carotenemia) ภาวะแคโรทีนในเลือดสูง ทำให้เกิดอาการตัวเหลืองเหมือนเป็นโรคดีซ่าน แต่ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ภาวะนี้จะค่อยๆ หายไปเมื่อเราหยุดรับประทานหรือลดปริมาณลง แต่ก็ควรระมัดระวังเพราะหากรับรับประทานมากเกินไปเกินความจำเป็นต่อร่างกายก็อาจทำให้เป็นอันตรายได้
แคร์รอตไม่เหมาะแก่การรับประทานแบบสดๆ เพราะแคร์รอตมีผนังเซลล์หนา มีผลทำให้ร่างกายเปลี่ยนแคโรทีนเป็นวิตามินเอได้เพียงร้อยละ 25 ดังนั้นควรนำแครอทมาปรุงสุกก่อนรับประทาน และมีงานวิจัยพบว่า แครอทที่ต้มทั้งหัวก่อนนำมาหั่นเป็นชิ้นจะมีสารต้านมะเร็ง ฟาลคารินอล (fal-carinol) สูงกว่าแครอทที่หั่นก่อนต้มถึงร้อยละ 25
วิธีการเก็บเกี่ยวแคร์รอต
ต้องตัดใบให้หมดก่อนถอนขึ้นมาจากดิน เพื่อไม่ให้ความหวานลดลง หากต้องการคงความกรอบไว้ไม่ควรปลิดจุกทิ้ง และไม่ควรเก็บแคร์รอตรวมกับแอปเปิ้ล แพร์ หรือพีช เพราะผลไม้เหล่านี้จะปล่อยแก๊สเอทิลีน (ethylene) ทำให้แคร์รอตมีรสขม
Advertisement - ป้ายโฆษณา
0 comments :
Post a Comment