เหน็บชาไม่ถามหา เพียงกินผัก ผลไม้ สมุนไพรเหล่านี้บ่อยๆ

อาการเหน็บชาเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น การนั่งหรือการอยู่ในท่าที่ทำให้กดทับเส้นเลือดนานๆ หรือเกิดจากร่างกายขาดวิตามินบี1 ที่ช่วยบำรุงปลายเส้นประสาท หรือเกิดจากโรคอื่นที่มีผลต่อเส้นประสาท เช่น โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ ฯลฯ

อาการของเหน็บชา จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อไม่มีแรง รู้สึกซู่ซ่าตามมือและเท้าจนอาจเคลื่อนไหวไม่สะดวก บางรายจะมีอาการเจ็บกล้ามเนื้อหรือชาตามมือเท้า และอาจมีอาการขี้หงุดหงิด ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตในอนาคต เคยมีการทดลองให้กลุ่มตัวอย่างกินอาหารที่ขาดวิตามินบี 1 พบว่าหลังเริ่มทดลอง 4 วัน กลุ่มตัวอย่างมีอาการเบื่ออาหาร ต่อมาเริ่มมีปัญหาทางอารมณ์ กลุ่มตัวอย่างมักอารมณ์ไม่ดี ทะเลาะกันง่าย ไม่ค่อยให้ความร่วมมือทำกิจกรรมต่าง ๆ

ผู้ที่เสี่ยงเป็นเหน็บชา คือ ผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินบี หรือร่างกายได้รับวิตามินบีไม่เพียงพอ และผู้ที่กินอาหารที่มีฤทธิ์ขัดขวางการดูดซึมหรือทำลายวิตามินบี เช่น แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เมื่ออายุมากขึ้น การดูดซึกวิตามินจะทำได้ลดลง จึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหน็บชามากขึ้น

กินอย่างไรห่างไกลเหน็บชา
1. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง


2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสาร Thaiaminase เช่น ปลาน้ำจืด หอย กุ้ง เนื้อสัตว์แบบดิบ ๆ หรือรับประทานอาหารเหล่านี้ที่ปรุงสุกแล้ว ก็จะช่วยทำลาย Thaiaminase ให้หมดฤทธิ์ได้
3. กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลาย ข้าวแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ข้าวเหนียวดำ ขนมปังโฮลวีต ธัญพืชต่างๆ

เมล็ดข้าวที่ยังไม่ผ่านการขัดสี นำมาต้มกับน้ำ ใช้ดื่ม มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง บำรุงลำไส้และกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหาร ช่วยแก้โรคเหน็บชา ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อและระบบประสาท

ผัก ผลไม้ สมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินบี1 และหาทานง่าย

แอปเปิ้ล - เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด วิตามินซีช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน และมีวิตามินบีชนิดต่างๆ ที่ช่วยบำรุงประสาท

มังคุด - มังคุด 1 หน่วยบริโภคให้พลังงานประมาณ 80 แคลอรี มีไฟเบอร์ที่ช่วยปรับสมดุลของระบบขับถ่าย มีวิตามินบี1 บี2 ที่ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา และบำรุงระบบประสาท

มะละกอ - ในมะละกอมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา และ วิตามินบี1 วิตามินบี2 ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และป้องกันโรคเหน็บชา

แตงไทย - แตงไทยมีสรรพคุณเป็นยาเย็น ช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และทีสำคัญมีวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสาย บำรุงเซล์ วิตามินบี1 บี2 บี5 (ไนอะซิน) ช่วยบำรุงประสาท บำรุงกล้ามเนื้อ และป้องกันโรคเหน็บชา

สับปะรด - ในสับปะรด 1 ผลอุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิด โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต ไนอะซินช่วยเผาผลาญพลังงาน และที่สำคัญมี วิตามินบี1 วิตามินบี2 ที่ช่วยบำรุงประสาท บำรุงสมอง ป้องกันโรคเหน็บชา
ปล. เนื่องจากสับปะรดมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ สตรีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้ เพราะจะทำให้มดลูกบีบตัวอย่างรุนแรงมีผลให้แท้งบุตรได้

ผัก ผลไม้ สมุนไพร เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินบี1 ยังมีผัก ผลไม้ อีกหลายชนิดที่มีประโยชน์และอุดมไปด้วยวิตามินบี1 การกินอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี1 เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืช ถั่ว ซีเรียล เนื้อสัตว์ต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อให้ได้วิตามินบี 1 วันละ 20 – 30 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 2 – 3 สัปดาห์ ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยให้หายจากอาการเหน็บชาได้เป็นอย่างดี

แหล่งอ้างอิง: ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส., Kapook Health, Healthtoday Thailand

Advertisement - ป้ายโฆษณา

SHARE